สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Steemians ทุกท่าน
สบายดี.... วันพูธที่ 27 มี.ค.62 มาล้าววววว....มาล้าววววว กลับมาพบกันอีกแว้ววววว.... ทริปเน้.... ยังอีกยาวไกล เรามาต่อกันเล้ยยยย.... หลังจากที่ถึงบ้านน้องสาวที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวานก็หลังจากอาบน้ำก็ไปช่วยน้องสาวขายก๋วยเตี๋ยวเรือที่ท่าน้ำเมย ตกบ่ายก็ง่วงมากเพราะคืนก่อนแทบจะไม่ได้นอนเลย ก็เลยกลับมานอนตั้งแต่บ่าย 2 ตื่นมาอีกทีก็ 4 โมงเย็น ก็ช่วยได้เยอะพอสมควร รู้สึกสดชื่นและหายเพลีย จากนั้นก็ไปช่วยน้องสาวขายก๋วยเตี๋ยวต่อ เพราะน้องสาวปิดร้านดึกพอสมควร แต่ไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฝนก็เทลงมา ก็เลยต้องรีบปิดร้าน ฝนก็รั่วเปียกเกือบทั้งร้าน เพราะหลังคามุงจาก กันฝนไม่ได้
หลังจากที่เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝน นักท่องเที่ยวก็เลยไม่ค่อยมี น้องสาวก็เลยชวนไปเที่ยวถ้ำค้างคาว ซึ่งอยู่ห่างจากแพก๋วยเตี๋ยวประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร โดยคนที่คุมเรือก็คือพ่อสามีของน้องสาวนั่นเองค่ะ ส่วนคนท้ายก็คือหลานสาวของบัวเองค่ะ ลูกสาวของน้องสาว @yuza นั่นเอง
ไปไหนมาไหน ของมันต้องมี งานเซลฟี่ต้องมา ด้านหน้าสุดคือแม่ย่านางประจำเรือ ลูกสาวคนโตของน้องสาวบัวเองค่ะ ถัดมาก็เป็นน้องสาว หลานสาวคนเล็ก และลูกชายคนเล็กของบัวซึ่งเซฟตี้เฟิร์สอยู่คนเดียว ด้านหลังบัวก็ยังมีแม่ หลานสาวลูกของอาที่มาเที่ยวด้วย เด็กพม่าที่แม่เขามาช่วยน้องสาวบัวขายก๋วยเตี๋ยวติดเรือมาด้วย และสุดท้ายคนขับเรือ ซึ่งไปทั้งหมด 9 ชีวิต
สองฝั่งริมเมย อีกฝั่งเป็นประเทศไทย อีกฝั่งก็เป็นประเทศเมียนร์มา โดยมีแม่น้ำเมยเป็นพรมแดนขวางกั้นอยู่ สองฝั่งริมเมยก็จะเป็นภูเขาบ้าง หน้าผาสูงชันบ้าง ลดเลี้ยวไปตามสายน้ำ
ภาพเน้.... จะมีแม่ย่านางนั่งอยู่หัวเรือเด่นเป็นสง่าเลย 5555 ฝั่งขวามือจะเป็นประเทศไทยค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือก็เป็นประเทศพม่า พวกเราล่องเรือไปตามสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด เพราะเมื่อคืนฝนตกทั้งคืน ทำให้น้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้น และเชี่ยวแรง
เพราะน้ำเชี่ยวและแรง ทำให้พวกเราไปต่อไม่ได้ เพราะคนที่คุมหัวเรือไม่มีประสบการณ์ผ่านช่วงโขดหิน ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายได้ พ่อสามีของน้องสาวก็เลยหยุดเรือและทอดแหมันซะเลย เพราะเวลาแกไปขับเรือจะติดแหไปด้วยเสมอ ได้ปลามา 7-8 ตัว ซึ่งบัวไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่ถ่ายเป็นแบบวิดีโอ
พอหว่านแหแล้วก็เดินทางกลับ ขากลับจะเป็นการขับเรือทวนน้ำ ระหว่างทางก็เจอชาวพม่ากำลังอาบน้ำ
เมื่อไปไม่ถึงถ้ำค้างคาว ขากลับก็เลยแวะถ้ำพระเจ้า ทางขึ้นชันมม๊วกกกกก.... เดินขึ้นไปนี่หอบเลย อาจจะเป็นเพราะบัวไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยแหล่ะ วันๆ นั่งแช่อยู่แต่หน้าคอม พอให้มาเดินแบบเน้.... ร่ายกายมันก็ประท้วง ขาไม่ยอมก้าวไปข้างหน้า ตามใจสั่ง
ทางขึ้นทั้งสูงและชัน เป็นทั้งทางเดินไม้ไผ่ และดินที่ทำให้เป็นแบบขั้นบันไดเพื่อที่จะได้เดินง่ายๆ
ลูกชายบัวเป็นเด็กที่กลัวทุกอย่าง แต่ครั้งนี้มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน คือลูกสาวคนเล็กของน้องสาว ที่นางเป็นเด็กสาวจอมแก่น ไม่กลัวอะไรในใต้หล้า เลยพลอยทำให้ลูกชายบัวมีความกล้าไปด้วย ปีนหน้าผาไปขาสั่นด้วยใจสู้ แต่ขานางสั่งพับๆ เพราะบางช่วงจะเป็นก้อนหินใหญ่ และมีช่องว่างระหว่างหินก้อนใหญ่ ก็จะมีบันไดไม้ไผ่ให้ปีนขึ้นไป
รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูงยังไงจะขอลองดูสักที เพลงเล่นของสูงของบิ๊กแอสนี่ลอยมาเลย 5555
ตรงหน้าผานี้ เขาเรียกว่าถ้ำพระเจ้า คือก็ไม่เชิงเป็นถ้ำหรอกค่ะ เป็นแค่ชะง่อนหน้าผา ที่เรียกว่าถ้ำพระเจ้า คือบริเวณนั้นมีพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ แต่ปัจจุบันพระพุทธปเก่าแก่นั้นได้ถูกขโมยไปจนหมดสิ้น เหลือแต่พระพุทธรูปใหม่ๆ ที่มีคนเอามาตั้งทดแทนของเดิมที่หายไป
เมื่อชื่นชมความงามของหน้าผา และวิวบนยอดเขาแล้ว ก็ถึงเวลากลับ ขาลงดูน่ากลัวกว่าตอนขาขึ้นอีกแหน่ะ มองลงไปด้านล่างมีแต่หุบเหว และก้อนหินใหญ่ ถ้าเกิดก้าวพลาดไม่อยากจะนึกเล้ยยยยย....ว่าจะเป็นยังไง ตอนลงพยายามไม่มองลงไปด้านล่าง เพราะยิ่งมองเท่าไหรขายิ่งสั่นเท่านั้น จากที่ก่อนขึ้นมาใจใหญ่เท่าช้าง ขาลงใจเหลือเท่ามด 5555
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันเสมอมา
แล้วเจอกันโพสต์หน้าจ้า เลิฟนะยู้วววว....