ICO part 2

ico pt2.jpg

สวัสดีเพื่อนสมาชิกชาวไทยที่รักทุกท่าน

เอาหล่ะครับ ตามสัญญา วันนี้เราจะมาต่อกัน ถึงวิธีการเลือก ICO ชั้นดี เหมาะ
แก่การลงทุนของเรา เนื่องจากในตลาด ICO นั้นมีทั้งตัวที่เจ๋งมาก ยังไงก็เกิด
แน่นอนบางตัวแนวคิดดี แต่มีโอกาสแป๊ก บางตัว ไม่ดีเลย แม้กระทั่งคอนเซป
การทำ หรือกระทั่งบางตัวไม่ได้ตั้งใจ จะทำโปรเจค อะไรทั้งนั้นแค่ปั้นโปรเจค
มาหลอก เอาเงินเรา เท่านั้นเอง (พวก Scam) ดังนั้น การเลือก ลงทุน ใน ICO
ไม่ต้องไปฟัง ใครทั้งนั้น ให้ตัวเราเป็นคนตัดสินเอง ในการจะทำอย่างนี้ได้ แน่
นอนว่าคุณต้อง ลงทุนลงแรงกันบ้างและในการนี้ สิ่งที่ต้องมีก็คืออินเตอร์เนท
และโปรแกรม Excel (หรือจะเป็นโปรแกรม open source ก็ได้)สิ่งที่คุณจะทำ
ต่อไปนี้คือสิ่งที่นักลงทุนเก่งๆ เขาทำกันดังนั้นอย่าไปกลัวว่าจะเสียเวลาเปล่า
เพราะยิ่งลงแรง และใช้เวลา กับมันมาก คุณก็จะยิ่งได้ข้อสรุปทีชัดเจนว่า โปร
เจคไหน คือเพชรแท้ ควรค่าแก่การลงทุน
แบ่งแผ่นงานออกเป็นแถวและหลายแถว

frame ico.jpg

  1. แถวแนวตั้งอันแรก ไว้ใส่ชื่อ ICO แต่ละตัวที่มีในตลาด โดยเราสามารถดู List
    ICO ทั้งหมดได้จาก icodrops.com
  2. แถวแนวตั้งอันที่สอง เอาไว้ใส่ข้อมูล ICO นั้นว่าเป็น ICO ประเภทไหน (อยู่ใน
    ตลาดไหน) เช่น เป็นพวก การเงิน อสังหา ธนาคาร เกมส์ ให้บริการ ด้านข้อมูล
    พลังงาน แลกเปลี่ยน เงินตรา ฯลฯ ทั้งนี้ อย่าเลือกเพราะว่า เป็นประเภท ที่เรา
    ชอบ หรือสนใจเพียงอย่างเดียว เช่น ชอบเล่นเกมส์ก็เลยเลือก ICO ที่ทำเกี่ยว
    กับเกมส์ อันนี้ไม่ใช่เหตุผลที่ดีครับ
  3. แถวที่สาม เป็นข้อมูล เวปไซด์ ของ ICO นั้นๆ ICO ที่ดี ตั้งใจทำ ในทุกสิ่ง แม้
    กระทั่ง เวปไซด์ ไม่เหมือนพวก ICO ปั้นหลอกเอาเงิน พวกนี้ จะไม่ค่อยลงทุน
    ดังนั้น ในเวปไซด์ ให้ดูในทุก รายละเอียดการ เช่น ออกแบบ ความสวยงาม มี
    พิมพ์ผิดบ้างไหม หรือแม้แต่ bug ในหน้าเวป เพราะอย่างที่บอก พวกโปรเจค
    Scam ไม่ลงทุนหรือสนใจรายละเอียดพวกนี้
  4. แถวที่สี่ เป็นข้อมูลพวก "White paper" อันนี้สำคัญต้องใช้เวลาอ่านทำความ
    เข้าใจ ข้อมูลในนี้ ว่าโปรเจค จะทำอะไร นำเสนอเทคโนโลยี หรือบริการใหม่ ๆ
    อะไรบ้าง บางเรื่อง อาจเข้าใจยาก ถ้าอ่านแล้ว ไม่เข้าใจ ต้องค้นคว้า ต่อว่าเขา
    พูดถึงอะไร ทำได้จริงมั้ยอาจต้องใช้เวลาไปกับการแปลและทำความเข้าใจข้อ
    มูลเหล่านี้
  5. แถวที่ห้า คือข้อมูล ทีมงานโปรเจค แนนอนว่า โปรเจคที่มี แต่ทีมงาน โนเนม
    ใครจากไหนก็ไม่รู้อันนี้ก็ไม่น่าจะเอาเงินไปเสี่ยงกับคนพวกนี้ เพราะมีแนวโน้ม
    Scam สูง เช็คข้อมูล ทีมงานทุกคน ตามไปดู โปรไฟล์ใน linkedin ดูว่า บัญชี
    linkedin เพิ่งเปิดหรือเปล่าถ้าเพิ่งเปิดรับโปรเจคนี้ ก็สัญนิษฐานไว้เลยว่าเปิด
    มาเตรียม หลอกคน นั่นเอง และประวัติ ควรเป็นคน ที่มี ประสบการณ์ หรือมีชื่อ
    เสียง ในวงการนั้นๆ ซึ่งบางทีเราต้องทำการบ้านในการไป search ดูประวัติคน
    เหล่านี้ ในอินเตอร์เนต
  6. แถวที่หก คือข้อมูลว่า ICO ตัวนี้ อยู่ในตลาด (วงการ) ไหน เพื่อจะได้ ประเมิน
    ได้ว่าสิ่งที่ ICO เสนอเป็น disruptive ในตลาดนั้นหรือไม่ข้อมูลคู่แข่งในตลาด
    และประเมิน ต่อไปว่าสิ่งที่ ICO นำเสนอมันดีกว่า ของเดิมที่มีอยู่อย่างไรเขียน
    เป็นสรุปเลยว่า ICO ตัวนี้จะเข้ามาป่วนตลาดเดิมได้อย่างไร (ง่าย ๆ ก็ให้นึกถึง
    ตอน Apple เข้ามาฆ่ามือถือ Nokia)เอาหละ คงพอเท่านี้ก่อนสำหรับวันนี้ ตอน
    แรก ผมกะว่า จะเขียนแค่ 2 ส่วน แต่รายละเอียด ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นผมเลยจะ
    ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน เพื่อให้ได้ค่อย ๆ อ่านทำความเข้าใจกัน แล้วพบกันใหม่กับ
    ส่วนที่ 3 เร็วๆ นี้ครับ อธิบายศัพท์เพิ่มเติม
    (4). White paper คือเอกสาร ที่ใช้อธิบายรายละเอียด โครงการทั้งเริ่มจากหลัก
    การและเหตุผล รายละเอียดตัวเทคโนโลยีแผนการดำเนินงาน
    (5). LinkedIn.com เป็นเว็บไซต์ Social Network ที่เน้นไปในทางของธุระกิจที่
    เราสามารถสร้าง Profile ของเรา หรือสามารถ หาเพื่อนร่วมงาน หรือ หางาน
    (6). Disruptive หรือที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆว่า Disruptive Technology ก็คือสิ่ง
    ที่เข้ามา กระทบ หรือเปลี่ยนแปลง รูปแบบ การดำเนิน ธุรกิจเดิมๆ ในอุตสาห
    กรรมหรือวงการต่างๆ เช่น ตัวอย่าง เช่น การมาของกล้องดิจิทัลที่นำให้ผู้คน
    เลิกใช้ฟิมล์ จน Kodak ต้องล้มละลาย การเข้ามาของ Apple และมือถือ
    Smart phone ทำให้ Nokia ล้มละลายเป็นต้นทั้งนี้ Disruptive มันจะเปลี่ยน
    แปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหรือเลิกใช้นั่นเอง

More to come in part 3

@ricko66

H2
H3
H4
3 columns
2 columns
1 column
Join the conversation now
Logo
Center