ลาก่อนคุณ CD ๆคุณ DVD คุณจะอยู่ในใจของเราตลอดไป

เมื่อวันก่อนผมได้ดูข่าว การยกเลิกการผลิตแผ่น CD และ DVD จากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไต้หวัน เพราะในปัจจุบันนี้ มีทั้งสื่อและอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลหลากหลายและมีราคาที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็น Flash Drive, External harddisk หรือจะเก็บข้อมูลลงใน Cloud ผมเองก็ใช้ทั้ง 3 อย่างนี้และห่างหายจาก CD และ DVD มานานมากแล้ว
image


ผมลองมานั่งคิดดู ผมใช้ CD ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่
ลองย้อนไป 10 กว่าปีที่แล้ว ผมรู้จักอุปกรณ์เก็บข้อมูล ชิ้นแรกก็คือแผ่นดิส ที่เป็นแผ่นสีดำสี่เหลี่ยม ขนาดจัดเก็บข้อมูลน้อยมาก น่าจะประมาณ 10 MB ได้ เดาเอานะไม่แน่ใจ และแผ่นซีดี ที่ผมรู้จัก ก็จะเป็นพวก หนังแผ่น สมัยก่อน ที่บ้าน ลุงของผม มีหนังม้วน ที่มันเป็นเหมือนเทปคาสเซ็ท แต่อันใหญ่กว่ามาก(ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร) พอดูจบเรื่อง ก็ต้องเอาเข้าเครื่องกรอ ผมดูตอนมันกรอก็เพลินดี
ตอนประมาณ ม.2 ผมได้รู้จักกับ Flash Drive (แต่มันก็มีมาก่อนหน้านั้นอีก) ตอนนั้นมันราคาแพง แค่ความจุไม่ถึง 100 MB ก็อันละร้อยกว่าบาทละ ในสมัยนี้นะ 16 GB ก็แค่ 300 กว่าบาทเอง และมันก็จะถูกลงไปอีก ต่อมาก็ External harddisk ผมก็มีอยู่อันนึง 1 TB เอาไว้เก็บรูป แสนรูปก็ยังไม่เต็ม ส่วนการเก็บข้อมูลลงใน Cloud ผมไม่ค่อยได้ใช้บริการ ที่ก็จะเป็น Google Drive ที่มีกันเกือบทุกคน อันนี้ผมใช้ตอนไปปริ้นงานที่ร้านตอน้รียนมหาลัย ไม่อยากเอา Flash Drive ไปเสียบ และอีกอันก็ Drop Box อันนี้สมัครตามเพื่อนเห็นหน้าเว็บตามันสวยดี

ครั้งสุดท้ายที่ใช้แผ่น CD ก็คงจะเป็นตอนปี 4 ต้องไรท์ Project ลงแผ่น พร้อมทุกเล่มส่งอาจารย์
จะว่าไป หากไม่มีแผ่นซีดีแล้ว ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็อาจจะเป็น พวกขายหนังแผ่น ขายแผ่นเพลงเถื่อนตามตลาดนัด ก็คงจะหายไป การละเมิดลิขสิทธิ์ ก็อาจจะน้อยลง(หรืบอเปล่า) ส่วนข้อเสีย ผมก็ยังนึกไม่ค่อยออก ก็น่าจะเป็น การส่งการ อาจารย์ ที่เคยให้ส่งเป็นแผ่น cd ก็อาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบ ให้ส่งทางช่องทางออนไลน์ ต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน กดโหวดและแสดงความคิดเห็นนะครับ
@poonmos

H2
H3
H4
3 columns
2 columns
1 column
Join the conversation now
Logo
Center