สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
เมื่อวานนี้โชคดีที่เราเกี่ยวข้าวเสร็จก่อนที่ฝนจะมา วันนี้ก็ไปเกี่ยวข้าวเหมือนเมื่อวานค่ะ แต่เป็นคนละแปลงกัน ช่วงนี้ได้ทำทุกขั้นตอนของการทำนาเลย ตั้งแต่หว่านข้าว ฉีดยาฆ่าหญ้า และไปถึงเกี่ยวข้าว เพราะลูกพี่เราทำนาตลอดทั้งปี งานมันก็จะวนๆ อยู่แบบนี้ตลอดทั้งปีค่ะ แต่วันนี้ไม่รู้จะเขียนอะไรดี ก็เลยเอาภาพมาแต่งให้เป็นสีดำเพื่อร่วมกิจกรรมกับ @thaiteam ในหัวข้อ Black Photography Contest เป็นภาพวัดร่องขุ่นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเราถ่ายไว้ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย ได้แต่นั่งดูรูปเก่าๆ วนไป
วัดร่องขุ่นเป็นวัดที่สวยงามมากๆ ตอนที่เราไปเขายังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ยังสวยติดตาตรึงใจ นี่ถ้าได้เห็นตอนสร้างเสร็จแล้วคงตะลึงจนบรรยายไม่ถูกแน่ๆ เลยค่ะ รอให้การติดเชื้อโควิดมันน้อยลง อาจจะชวนเพื่อนๆ กลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง
วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทยสร้างขึ้น ด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่นรังสรรค์งานศิลปะที่งดงามแปลกตา ผสานวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจก และจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ ความงดงามของอุโบสถสีขาวประดับด้วยกระจกสีเงินแวววาว และลวดลายรูปปั้นอันวิจิตรเป็นเอกลักษณ์รวมถึงประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามประณีตที่เห็นแล้วต้องตะลึง
ด้านหน้าทางเข้าจะเจอสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานนทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามาร หรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิ ต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเอง ลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้น ไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา สระน้ำด้านล่าง หมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่พรหม 16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถ