So many life lessons to learn from this year 2020 บทเรียนของชีวิตที่สำคัญสำหรับปีนี้

วันนี้วันสิ้นปี ถนนหนทางหน้าบ้านที่เคยเงียบเหงา นานๆจะมีรถวิ่งผ่านสักคัน แต่วันนี้ดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษ เลยต้องมีการจัดเก็บน้องแมวเป็นอย่างดีเพราะกลัวออกไปวิ่งแล้วเกิดโดนรถชนแล้วต้องมานั่งเสียใจเหมือนไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่น้องแมวโดนชนตายหน้าบ้านนอนล้มอยู่ข้างถนน

Photo by eliza28diamonds from Pixabay

อย่างที่ทราบกันดีว่าสำหรับปีนี้พวกเราทุกคนต่างผ่านวิกฤติในชีวิตที่เข้ามาในหลายรูปแบบ ทั้งวิกฤติที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิดที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและขั้นรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต และที่สำคัญวิกฤติเศรษฐกิจที่ตามมาส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ธุรกิจท่องเที่ยวที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ทำให้มีธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยวในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวๆ อื่นๆ แน่นอนว่าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการจ้างงานและบุคลากรเพื่อประกอบธุรกิจเป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาได้จากต่างประเทศธุรกิจต้องหยุดชะงักไปโดยสิ้นเชิง หลายธุรกิจกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาลงทุนให้ได้กำไรมีเงินผ่อนใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย แต่เมื่อไม่มีลูกค้าไม่มีรายรับเข้ามาหลายธุรกิจที่ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนหรือสายป่านที่ยาวก็ต้องปิดตัวลง ไม่ปิดตัวก็มีการลดขนาดองค์กร ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงการลดเงินเดือน หนักมากก็อาจจะเลิกจ้างพนักงาน

ปัญหาก็กลับเข้ามาสู่พวกเราในระดับบุคคลทั่วไป ที่บางคนอาจจะมีรายได้ลดลงหรือที่แย่คือขาดรายได้เพราะถูกเลิกจ้างและตกงาน การหางานใหม่ในช่วงนี้ยากมาก เพราะทุกที่ต่างลดค่าใช้จ่าย ถ้าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบางประเทศหรือบางกลุ่มประเทศ ผลกระทบยังไม่มากขนาดนี้ แต่นี้เป็นการระบาดของโรคโควิด-19 แบบที่เรียกว่า pandemic หรือเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจ ประเทศยากจนได้รับผลกระทบหมด ในระดับของประชาชนที่อยู่ในระดับรากหญ้าได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะบางคนมีการกู้หนี้ยืมสิน เพื่อสร้างชีวิตและใช้ชีวิต บางคนกู้เงินมาเพื่อซื้อทรัพย์สินเพื่ออยู่อาศัย กู้ซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางทำมาค้าขาย บางคนใช้เงินจากบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ในช่วงเศรษฐกิจปกติ ก็พอจะกัดฟันผ่อนใช้หนี้และดอกเบี้ยในแต่ละเดือนไปได้ แต่มาในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้แน่นอนว่าการผิดชำระหนี้เริ่มจะเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าหนี้เสียเพราะคนไม่มีรายได้จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงต้องหามาตรการต่างๆ เพื่อพยุงและช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับลูกหนี้ที่จะขอเจรจาต่อรองเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยต่างๆ อย่าได้กลัวหรืออายที่จะเข้าไปคุยเพราะเรื่องนี้ได้รับผลกระทบกันทุกคน

สิ่งที่สามารถสอนเราได้อย่างชัดเจนก็คือบริษัทองค์กรใดที่พอจะมีเงินสดหรือทุนหมุนเวียนในกิจการก็จะพอสามารถประคับประคองให้ผ่านวิกฤติไปได้ ในระดับประชาชนคนที่มีเงินออมหรือเงินสำรองฉุกเฉินก็พอจะลากชีวิตต่อไปได้ในระยะหนึ่งตามจำนวนเงินออมที่มีเพื่อให้ผ่านพ้นปัญหา ท้ายที่สุดแล้วเราจะเห็นได้ว่าเงินออม เงินสำรองยามฉุกเฉินสำคัญมากๆ ไม่ว่าในระดับประชาชนหรือระดับภาคธุรกิจ ใครที่เคยคิดว่ามีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับครอบคลุมค่าใช้จ่ายๆ ในแต่ละเดือนประมาณ 3-6 เดือนคงจะพียงพอ อาจจะต้องกลับมาคิดใหม่ใช้เหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นบทเรียน สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดีเพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตต่อไปและขอให้มีเงินเก็บเงินออมพอเพียงเพื่อใช้จ่ายในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต

H2
H3
H4
3 columns
2 columns
1 column
2 Comments
Ecency