เมื่อวานนี้พูดถึงของความอัตราเงินเฟ้อว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เงินของเราที่อุตส่าห์เก็บออมไว้ใช้ตอนแก่หรือตอนเกษียณนั้นไม่พอใช้ ถ้าจะขยายความเพิ่ม อัตราเงินเฟ้อก็คือเรื่องที่ทำให้อำนาจหรือความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยในเรื่องต่างๆ ลดลง อัตราเงินเฟ้อของสินค้าแต่ละอย่างไม่เท่ากัน โดยแต่ละปีธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงค์ชาติจะออกมาประกาศอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี เพื่อที่จะควบคุมไม่ให้สินค้าและบริการพื้นฐานต่างๆ มีการปรับตัวมากจนเกินไป โดยตั้งแต่ปี 2558 ธนาคารแห่งประเทศจะกำหนดอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 2.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยจะมีการปรับเพิ่มหรือลดลงอยู่ในช่วง บวกหรือลบ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินกว่านี้ทางรัฐบาลหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลก็จะมีนโยบายทางเงินเพื่อที่จะเข้ามาพยุงราคาในรูปแบบที่ต่างกัน
สำหรับเราแล้วเวลาที่ตั้งเป้าเก็บเงินไว้เพื่อใช้ในตอนเกษียณ เพื่อให้มีเงินพอใช้ตอนแก่จะมีการเพิ่มเรื่องอัตราเงินเฟ้อเข้าไปด้วย โดยเราจะบวกเพิ่มเข้าไปประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าอีกหลายสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้า ถ้าอยากจะมีเงินจะมีเงินใช้เดือนละ 15000 บาท ก็ต้องมีการเก็บ ณ วันนี้ประมาณ 17000 บาทขึ้นไป ซึ่งถ้าใครจะวางแผนเก็บเงินสำหรับเกษียณตอนแก่ ลองไปค้นหาเครื่องมือคำนวณที่ทำให้ทราบว่าจะต้องเก็บเท่าไหร่เพื่อให้พอใช้ในตอนแก่
โดยส่วนใหญ่การออมเงินเพื่อเตรียมไว้ตอนแก่หรือตอนเกษียณ หลักการที่สำคัญก็คือการนำไปลงทุนในอะไรก็ตามที่ให้ผลตอบแทนสูง การเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่มากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั้งแบบประจำและแบบบัญชีเผื่อเรียกทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณต้องทำการเรียนรู้และศึกษาให้ดี โดยคนส่วนใหญ่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น และกองทุนต่างๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ก็ต้องหมายเหตุไว้ตัวโตๆ ว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน ถ้าไม่ศึกษาเรียนรู้ให้ดี
แต่จากประสบการณ์เรื่องที่ทำได้ง่ายและสามารถที่จะมั่นใจว่าเงินที่เราเก็บออมในแต่ละเดือนหรือแต่ละปี จะสามารถมีพอใช้ในตอนเกษียณและชนะอัตราเงินเฟ้อได้คือ มีการเก็บออมเพิ่มขึ้นในแต่ละปีหรือเดือน อย่างเช่นถ้าเอาอัตราเงินเฟ้อมาเป็นเกณฑ์ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สมมติว่า เก็บเงินได้ปีละ 10000 บาท ในปีถัดไปก็เพิ่มเงินเก็บอีก 500 บาท หรือ 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่เคยเก็บได้ เป็น 10500 บาท ในปีถัดไปก็เก็บเพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็นต์จากยอด 10500 บาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 525 บาท ซึ่งการเก็บเงินเพิ่มในแต่ละปีตามการคาดการณ์ของอัตราเงินเฟ้อที่เรากำหนดจะทำให้เรามีเงินพอใช้ตอนแก่และชนะอัตราเงินเฟ้อ สิ่งที่คุณจะได้เห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องดอกเบี้ยที่ได้รับที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนเงินออมที่คุณเก็บในแต่ละปี